มนต์พิธีพิเคราะห์ ตอน4 ความสงสัยกับคำว่า "หันทะ มะยัง พุทธานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส."
จากหัวข้อบทนี้ ผู้เขียนเองมานั่งคิดวิเคราะห์ โดยยึดหลักสมมติฐาน 2 ข้อคือ
- 1) ความนิยมของคนสวดเอง ที่นิยมสวดแบบนี้ตลอดมาตามศรัทธาความเชื่อ
- 2) หลักภาษาบาลี โดยใช้ความรู้ด้านบาลีไวยากรณ์ เพื่อมาวิเคราะห์
ถามว่าแล้วมันผิดด้วยเหรอที่สวดแบบนี้มา จะได้บุญหรือไม่? คำตอบคือ ได้บุญตั้งแต่ผู้สวดมีความคิดจิตเป็นกุศลที่จะสวดมนต์ในเบื้องต้นแล้วขอรับ ส่วนบุญจะมากหรือน้อยก็ย่อมอยู่ที่องค์ประกอบอื่นๆ อีกต่อไปเช่นกัน
พูดง่ายๆ ก็คือ ได้บุญทั้งนั้น แต่ระดับบุญของใครก็ของใคร อยู่ที่จิตความตั้งใจแต่ละบุคคลนั่นเอง
ตรงนี้จะไม่ขอกล่าวถึงความนิยมของผู้สวดมนต์ แต่จะอธิบายตามหลักภาษาบาลี โดยยึดบาลีไวยากรณ์เป็น scope ในการนำเสนอแง่คิดต่อไป
คำว่า "พุทธานุสสะตินะยัง" ที่อยู่ในบทนำเต็มๆ ว่า "หันทะ มะยัง พุทธานุสสะตินะยัง กะโรมะ เส." หรือคำอื่นๆ ที่พบเห็น คือ
- 1) พุทธานุสสะตินะยัง (หน้า 10)
- 2) ธัมมานุสสะตินะยัง (หน้า 11)
- 3) สังฆานุสสะตินะยัง (หน้า 12)
- 4) พุทธานุสสะตินะยัญจะ (หน้า 10)
ทัศนคติ/ข้อคิดเห็น
- 1) พุทธานุสสะตินะยัง น่าจะเป็น พุทธานุสสะติง เพราะในเวลาแปลๆ ว่า "ซึ่งความตามระลึกถึงพระพุทธเจ้า" มาจากคำว่า "พุทฺธา (พระพุทธเจ้า) + อนุสฺสติ (ความตามระลึกถึง)" ฯ
พุทฺธานุสฺสตึ เป็นทุติยาวิภัตติ เอกวจนะ, มาจาก พุทฺธานุสฺสติ เป็น อิ การันต์ อิตถีลิงค์ มีวิธีการแจกวิภัตติตาม รตฺติ (ราตรี) นั่นเอง
- 2) หากจะใช้เป็น พุทธานุสสะตินะยัง ก็ต้องแปลว่า "ซึ่งนัยแห่งความตามระลึกถึงพระพุทธเจ้า" เพราะจะมาจาก "พุทฺธ + อนุสฺสติ + นย" ฯ
พุทฺธานุสฺสตินยํ เป็นทุติยาวิภัตติ เอกวจนะ, มาจาก พุทฺธานุสฺสตินย เป็น อ การันต์ ปุงลิงค์ มีวิธีแจกวิภัตติ ตาม ปุริส (บุรุษ) นั่นเอง
สรุปคือ
- 1) ต้องเขียนเป็น พุทฺธานุสฺสตึ, ธมฺมานุสฺสตึ, สงฺฆานุสฺสตึ ฯ พุทธานุสสะติง, ธัมมานุสสะติง, สังฆานุสสะติง ฯ เพื่อให้ตรงกับคำแปลที่ใช้สวดมนต์ และ ถูกหลังภาษาบาลี
- 2) ตรงหน้า 10 บทปุพพภาคนมการที่ว่า ปุพพะภาคะนะมะการัญเจวะ พุทธานุสสะตินะยัญจะ กะโรมะ เส. ต้องเขียนเป็น พุทธานุสสะติญจะ กะโรมะ เส.
สังเกตจากบทศัพท์หน้าเชื่อมกันด้วย จ ศัพท์ และเป็นทุติยาวิภัตติเช่นเดียวกัน เพราะตามหลักการเชื่อม จ ปิ วา ศัพท์นั้น
กลุ่มคำศัพท์ต้องมีสิ่งที่เหมือนกันคือ 1) เนื้อความเหมือนกัน 2) วิภัตติเหมือนกัน 3) วลีคล้ายกัน ฯ
ในที่นี้เป็นศัพท์ที่มีวิภัตติเหมือนกันคือ ทุติยาวิภัตติ นั่นเอง เพราะแปลว่า "ซึ่ง.... "
เพราะถ้าเป็น พุทธานุสสะตินะยัญจ ตัดเป็น พุทธานุสสะตินะยัง ก็จะกลายเป็นลง นย ซึ่งแปลว่า "นัย หรือ นัยยะ" สนธิกับ จ ศัพท์
จึงกลายเป็น พุทฺธานุสฺสตินยํ + จ = พุทฺธานุสฺสตินยฺจ จัดเป็น อาเทส นิคคหิตสนธิ, อาเทสนิคคหิตเป็น ญฺ นั่นเอง