เพจเลี่ยงเชียง เพจธรรมะ ธรรมทาน เพจสร้างบุญ Line@MAKEBOON || makeboon2018@gmail.com
เพื่อให้การปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด จึงกำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายดังกล่าว
“บริษัท” หมายถึง บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด รวมถึงบริษัทในเครือ
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ท่าน” หมายถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ ลูกค้า พนักงาน บุคลากร ตัวแทน และบุคคลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมและการดำเนินงานต่าง ๆ ของบริษัท
“ผู้สมัคร” หมายถึง ผู้สมัครงาน เพื่อเป็นพนักงานประจำ พนักงานอัตราจ้าง พนักงานรายวัน พนักงานชั่วคราว หรือพนักงานใดๆ ที่อยู่ใต้การจ้างงานของผู้ให้บริการจัดหางาน (outsource) และพนักงานอิสระที่ทำงานให้แก่ บริษัท กรณีไม่ว่าการสมัครงานนั้นจะดำเนินการ โดยผู้สมัครเองหรือรับสมัครงานภายใน บริษัท หรือผ่านการแนะนำของบุคคลอื่นหรือผ่านการดำเนินการของผู้ให้บริการจัดหางาน
“พนักงาน” หมายถึง ผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานกับบริษัท ในตำแหน่งพนักงานประจำ พนักงานอัตราจ้าง พนักงานรายวัน พนักงานชั่วคราว หรือพนักงานใดๆ ที่อยู่ใต้การจ้างงานของผู้ให้บริการจัดหางาน (outsource)
“กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายลำดับรองที่เกี่ยวข้อง และให้หมายความรวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไขเพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต
“ประมวลผล” หมายถึง การดำเนินการใด ๆ กับข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าด้วยวิธีการอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดระบบ การจัดเก็บ การปรับเปลี่ยนหรือการดัดแปลง การเรียกคืน การปรึกษา การใช้ การเปิดเผย (โดยการส่ง โอน การเผยแพร่หรือการทำให้สามารถเข้าถึงหรือพร้อมใช้งานโดยวิธีใด ๆ) การจัดเรียง การนำมารวมกัน การบล็อกหรือจำกัด การลบหรือการทำลาย
“ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
“ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
“ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำแนกตามกฎหมายว่าเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและโอนไปต่างประเทศหากบริษัทได้รับความยินยอมอย่างชัดเจนจากท่านหรือตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้
บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลอันเกี่ยวกับการใช้บริการในปัจจุบันและที่อาจมีเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังต่อไปนี้
3.1 ข้อมูลที่บ่งชี้ตัวตน เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล วันเกิด เพศ สัญชาติ สถานภาพทางการสมรส ภาพถ่าย กรุ๊ปเลือด ส่วนสูง น้ำหนัก การรับราชการทหาร ข้อมูลเกี่ยวกับบัตรที่ออกให้โดยทางราชการ (เช่น ภาพหรือหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตทำงาน ใบขับขี่และใบอนุญาตอื่นๆ และ / หรือใบอนุญาต เช่น ใบอนุญาตผู้สอบบัญชี และใบอนุญาตทนายความ เป็นต้น) สมุดทะเบียนรถยนต์ บัญชีสื่อสังคม ลายเซ็น CV ประวัติ ใบสมัคร บัญชีธนาคาร ข้อมูลอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ข้อมูลตำแหน่งที่อยู่ ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน การสั่งซื้อหรือคำสั่งซื้อ และสิ่งระบุตัวตนอื่น ๆ
3.2 ข้อมูลติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรศัพท์บ้าน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ที่อยู่ปัจจุบัน ที่อยู่อีเมล ข้อมูลในทะเบียนบ้าน ข้อมูลผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉินและข้อมูลอื่น ๆ ที่มีลักษณะเดียวกัน
3.3 ข้อมูลที่เกี่ยวกับงานของท่าน เช่น ประสบการณ์การทำงานและการจ้างงานก่อนหน้า (ซึ่งรวมถึง ตำแหน่งแผนกและประวัติตำแหน่งและเงินเดือนและผลประโยชน์จากการจ้างงานก่อนหน้า) พฤติกรรมการทำงาน ประวัติการศึกษา ประวัติการฝึกอบรมใบรับรองและคุณสมบัติต่าง ๆ
3.4 ข้อมูลและพฤติกรรมการใช้บริการ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ
3.5 ข้อมูลทางการเงิน เช่น ข้อมูลการชำระเงิน หมายเลขบัตรเครดิต และหมายเลขบัญชีธนาคาร
3.6 ข้อมูลในการวิเคราะห์การใช้บริการเพื่อการตรวจสอบย้อนหลังในกรณีที่เกิดปัญหาการใช้งานรวมถึงข้อมูลที่บันทึกในระบบรักษาความปลอดภัย เช่น ข้อมูลโทรทัศน์วงจรปิด (กล้องวงจรปิด) ซึ่งอาจเก็บรวบรวมภาพถ่ายหรือภาพวีดีโอ รวมถึงเสียงของท่านไว้
3.7 ข้อมูลการทำธุรกรรม เช่น ข้อมูลการชำระเงิน ข้อมูลสินค้าหรือบริการอื่น ๆ ที่ท่านได้ซื้อจากบริษัทฯ
3.8 ข้อมูลทางเทคนิค เช่น หมายเลข ** ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย ข้อมูลการเข้าระบบ คุกกี้ (Cookies) ข้อมูล เบราเซอร์ที่ใช้เชื่อมต่อ การตั้งค่าเวลาและที่ตั้ง ระยะเวลาที่ใช้บริการ ข้อมูลที่ท่านค้นหารวมไปถึงสถิติอื่นๆ ระบบปฏิบัติการและแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีอื่น ๆ บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้เข้าระบบแพลตฟอร์ม
3.9 ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน หมายเลขทะเบียนรถ ยานพาหนะ การสั่งซื้อหรือคำสั่งซื้อจากท่าน ความสนใจ การตั้งค่า การตอบรับ และการตอบแบบสำรวจ
3.10 ข้อมูลที่จำเป็นสำหรับบริษัทในการปฏิบัติตามกฎหมาย คำขอตามกฎหมายของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและ/หรือคำสั่งศาล
3.11 ข้อมูลด้านการตลาดและการตอบแบบสำรวจ เช่น ความสนใจ การตั้งค่า ข้อมูลความพึงพอใจในการตอบแบบสำรวจ การติดต่อสื่อสารเพื่อสำรวจความพึงพอใจ
3.12 ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น ข้อมูลสุขภาพและข้อมูลทางการแพทย์ (เช่นข้อมูลการตรวจรักษาโรคที่มีผลกระทบต่อการทำงาน) และ ประวัติอาชญากรรม
หากท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับสมาชิกในครอบครัวของท่าน ญาติใกล้ชิด ผู้อ้างอิง และ / หรือผู้มีความสัมพันธ์อื่นๆ วัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ ท่านมีหน้าที่รับผิดชอบในการแจ้งสิทธิของเขาที่มีตามนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ที่ปรับใช้กับเขา ท่านต้องรับผิดชอบในการขอความยินยอมที่จำเป็นจากบุคคลเหล่านั้นและทำให้มั่นใจว่าท่านมีสิทธิ์ที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านั้นกับบริษัท
บริษัทอาจได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากช่องทางดังนี้
4.1 บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง โดยบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากขั้นตอนการให้บริการดังนี้
4.1.1 จากขั้นตอนการสมัครใช้บริการ หรือขั้นตอนการยื่นคำร้องขอใช้สิทธิต่าง ๆ กับบริษัท
4.1.2 จากความสมัครใจของท่าน ในการทำแบบสอบถาม (Survey) คำสั่งซื้อ หรือการโต้ตอบทางอีเมล หรือช่องทางการสื่อสารอื่น ๆ ระหว่างบริษัทและท่าน
4.1.3 จากการใช้บริการ รวมถึงการใช้เครือข่าย หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ
4.1.4 จากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ของบริษัทผ่าน Browser's cookies ของท่าน
4.2 บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากบุคคลที่สามรวมถึงตัวแทนและผู้รับจ้างช่วงที่บริษัทใช้เพื่อช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินการสมัครบริการและให้บริการแก่ท่าน บุคคลที่สามเปิดเผยข้อมูล ให้บริษัทได้รับทางอีเมล ได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ ได้รับแจ้งเป็นเอกสาร
4.3 จากการใช้บริการ รวมถึงการใช้เครือข่าย หรือผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการบริการ เก็บจากข้อมูลการใช้เว็บไซต์ของบริษัทผ่าน Browser's cookies ของท่าน
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
5.1 เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือใช้บังคับกับบริษัท
5.1.1 เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย หลักเกณฑ์ และระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง อันรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งที่มีผลใช้บังคับในปัจจุบันและที่จะมีการแก้ไขหรือเพิ่มเติมในอนาคต
5.1.2 เพื่อการแจ้งข้อมูล ข่าวสาร จากหน่วยงานกำกับดูแลและภาครัฐ
5.1.3 เพื่อการปฏิบัติตามระเบียบการดำเนินการภายในของบริษัท และบริษัทในเครือ
5.2 เพื่อกิจกรรมด้านการตลาด การส่งเสริมการให้บริการ การซื้อขายสินค้า และการทำสัญญาของบริษัท
5.2.1 เพื่อการพิสูจน์และยืนยันตัวตนของผู้สมัครเพื่อสมัครลงทะเบียนและเข้าใช้บริการ
5.2.2 เพื่อจัดหาสินค้า หรือการให้บริการกับท่าน หรือปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น
5.2.3 เพื่อชำระค่าบริการและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ
5.2.4 เพื่อให้คะแนนหรือรางวัลในกิจกรรมของบริษัท
5.2.5 เพื่อให้บริการหลังการขาย ให้บริการตามที่ท่านร้องขอ ตอบข้อสงสัย สนับสนุนการใช้งาน ให้ข้อมูล รับเรื่องร้องเรียน ชดเชยค่าเสียหาย และแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ
5.2.6 เพื่อส่งหนังสือแจ้งค่าบริการ ใบสั่งซื้อสินค้าและบริการ การแจ้งเตือนให้ชำระค่าสินค้าและบริการ จัดทำใบเสร็จรับเงินและใบกำกับภาษี ติดตามทวงถามหนี้
5.2.7 เพื่อการติดต่อสื่อสาร การสื่อสารทางการตลาด การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แจ้งข้อมูล ข่าวสาร การส่งเสริมการขาย และข้อเสนอต่าง ๆ เกี่ยวกับการสมัคร การซื้อขายสินค้า หรือการใช้บริการต่าง ๆ ของบริษัท รวมถึงนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใด ผ่านทางโทรศัพท์ ข้อความ (SMS) อีเมล หรือไปรษณีย์ หรือผ่านช่องทางใด ๆ
5.2.8 เพื่อปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการ วิเคราะห์และนำเสนอบริการ วางแผนการตลาด กิจกรรมทางการตลาดของบริษัท นำเสนอหรือให้สิทธิประโยชน์ของบริษัท และ/หรือร่วมกับนิติบุคคลหรือบุคคลอื่นใด
5.2.9 เพื่อบันทึกภาพถ่าย บันทึกภาพและเสียง บันทึกเสียงการสนทนาการให้บริการ
5.2.10 เพื่อจัดการ ดำเนินการ กิจกรรมอย่างใดๆ ทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างท่านกับบริษัท เช่น การซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆ ของบริษัท
5.2.11 เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ โอนสิทธิ ผลประโยชน์ และบังคับตามสิทธิที่บริษัทมีตามสัญญา หรือเอกสารใดๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญา
5.3 เพื่อการส่งเสริมพัฒนาความรู้และการการอบรม
5.3.1 เพื่อบริหารจัดการการฝึกอบรม การจัดหาอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก และสวัสดิการต่าง ๆ ให้กับท่าน อาทิ ประกันสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล และการกู้ยืมเงินนายจ้าง
5.3.2 เพื่อจัดทำสื่อส่งเสริมความรู้ เผยแพร่ข้อมูลและส่งเสริมความรู้ให้แก่พนักงาน บุคคลทั่วไป อาทิ การจัดอบรม การจัดสัมมนา การจัดกิจกรรมและโครงการเกี่ยวกับการเรียนรู้ การให้บริการห้องสมุด การจัดอบรมและการจัดทดสอบทางวิชาการ การสมัครสมาชิก รวมถึงการบันทึกภาพถ่าย บันทึกภาพและเสียง บันทึกเสียงการสนทนาที่เกี่ยวข้อง
5.3.3 เพื่อให้บริการระบบงาน เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ เกี่ยวกับการส่งเสริมพัฒนาความรู้ให้กับพนักงานของบริษัท
5.3.4 เพื่อรับรองหลักสูตรและสิทธิที่เกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี
5.4 เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล เพื่อที่จะทำให้บริษัทสามารถตัดสินใจได้ดีที่สุดในการสรรหาบุคลากร และในการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล
5.4.1 เพื่อพิจารณาคุณสมบัติ คัดเลือก ผู้สมัครเพื่อบรรจุแต่งตั้งหรือว่าจ้างเป็นพนักงาน ลูกจ้าง นักศึกษาฝึกงาน ซึ่งรวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การบันทึกภาพถ่าย บันทึกภาพและเสียง บันทึกเสียงการสนทนา การส่งข้อมูลข่าวสารการรับสมัครงาน รับสมัครฝึกงาน ตลอดจนการปรับปรุงพัฒนาระบบการคัดเลือกผู้สมัคร และอัตรากำลังคนของบริษัท
5.4.2 เพื่อการกำหนดเงินเดือนและข้อมูลเบื้องต้นอื่นๆ สำหรับทำสัญญาการจ้างงานใหม่ ขั้นตอนการปฐมนิเทศประเมินผู้สมัคร / ผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกสำหรับคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งงาน การตรวจสอบประวัติ (ถ้าท่านได้รับการเสนอตำแหน่งงานกับบริษัท) และชื่อผู้ติดต่อที่ท่านกำหนดในกรณีฉุกเฉิน
5.4.3 เพื่อปฏิบัติตามสัญญาจ้างที่ทำกับท่าน รวมถึงเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเก็บและบันทึกข้อมูลในทางบัญชีและภาษีอากร การหักภาษี ณ ที่จ่าย การคุ้มครองแรงงาน การบริหารจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อบริหารจัดการกองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้กับท่าน หากท่านเป็นพนักงาน หรือสัญญาจ้างทำของหากท่านเป็นคนทำงาน
5.4.4 เพื่อเก็บรักษาประวัติการเจ็บป่วยเพื่อใช้ในการบริหารจัดการด้านสวัสดิการต่าง ๆ และเพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินความเหมาะสมของผู้สมัครข้อมูลเกี่ยวกับความพิการเพื่อวัตถุประสงค์ในการสรรหาบุคลากร
5.4.5 เพื่อการจัดทำฐานข้อมูล และประวัติของพนักงาน และพิสูจน์ตัวตน ตรวจสอบประวัติการศึกษา และประวัติการทำงานของพนักงาน
5.4.6 เพื่อการจัดทำสวัสดิการของพนักงาน การจัดทำกรมธรรม์ประกันชีวิต การใช้สิทธิลดหย่อนภาษีของพนักงานการติดต่อ ประเมินผล และงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารด้านทรัพยากรบุคคลของบริษัทกับพนักงาน
5.4.7 เพื่อจัดทำและบริหารจัดการการคำนวณจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์อื่น สวัสดิการต่างๆ ของบริษัท รวมถึงการจ่ายเงินประกันชีวิต กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การกู้เงินนายจ้าง ของพนักงาน
5.4.8 เพื่อรับมอบอำนาจดำเนินกิจการใดๆ ตามที่ได้รับมอบหมายจากบริษัท
5.4.9 เพื่อเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานแก่บริษัทในเครือ บริษัทหรือบุคคลผู้ที่ได้รับช่วงสิทธิตามกฎหมาย เช่น ธนาคารพาณิชย์ที่พนักงานขอใช้บริการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สิทธิตามกรมธรรณ์ประกันชีวิต สิทธิประโยชน์ของเงินสวัสดิการ การกู้เงินนายจ้าง รวมทั้งเพื่อเปิดเผยให้แก่หน่วยงานราชการ และหน่วยงานอื่นๆ ของรัฐ
5.5 เพื่อการจัดซื้อจัดจ้าง และเพื่อการรักษาความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างบริษัทกับท่านหรือตัวแทน
5.5.1 เพื่อตรวจสอบข้อมูล คุณสมบัติ และดำเนินวิธีการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทการบันทึกภาพถ่าย บันทึกภาพและเสียง บันทึกเสียงการสนทนา
5.5.2 เพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ทำกับท่านหรือตัวแทน เพื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากท่านหรือตัวแทน รวมถึงการติดต่อท่านเพื่อบริหารจัดการสัญญาระหว่างบริษัทกับท่านหรือตัวแทน เพื่อให้ได้มาซึ่งสินค้าหรือบริการ ดำเนินการที่เกี่ยวกับการรับประกัน และเพื่อชำระเงิน หรือเรียกเก็บเงิน ค่าสินค้า ค่าบริการ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้กับท่านหรือตัวแทน (หากมี)
5.5.3 เพื่อบริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับท่านหรือตัวแทนเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเก็บและบันทึกข้อมูลในทางบัญชีและภาษีอากร การหักภาษี ณ ที่จ่าย
5.6 เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
5.6.1 เพื่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและเครือข่ายการให้บริการของบริษัท รวมถึงตรวจสอบระบบและกิจกรรมของผู้ใช้บริการเพื่อติดตามกิจกรรมที่เป็นอันตรายใด ๆ ต่อท่าน ผู้อื่น และบริษัท
5.6.2 เพื่อการรักษาความปลอดภัยของสถานประกอบการและสำนักงานสาขาของบริษัท เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) ภาพถ่าย บันทึกภาพและเสียง บันทึกเสียงการสนทนา เพื่อความปลอดภัยและป้องกันอาชญากรรม
5.6.3 เพื่อความปลอดภัยหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพอนามัยของบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติตามกฎหมาย และ/หรือมีเหตุจำเป็นอื่นใดเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
5.6.4 เพื่อควบคุมการเข้าออกอาคาร คลังสินค้า สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัย ห้องที่มีการป้องกัน โครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศหรือข้อมูลเชิงปฏิบัติการ และพื้นที่อื่นซึ่งเป็นการป้องกันการเข้าออก (รวมเรียกว่า “อาคารและพื้นที่”) และเพื่อทำให้มั่นใจว่าอาคารและพื้นที่ของบริษัทมีความปลอดภัยและความมั่นคงต่อบุคลากรของบริษัทและผู้มาติดต่อบริษัท รวมทั้งต่อทรัพย์สินและข้อมูลต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่หรือจัดเก็บในอาคารและพื้นที่ และเพื่อเฝ้าสังเกตและตรวจตราการเข้าออกอาคารและพื้นที่ของบริษัท เพื่อป้องกัน ตรวจจับ และสืบสวนเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย เช่น การเข้าออกอาคารและพื้นที่ของบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต การโจรกรรม อัคคีภัย หรือการทำร้ายร่างกาย
5.6.5 เพื่อการทำงานของพนักงาน การตรวจจับการทุจริตภายในบริษัท เพื่อพิสูจน์ตัวตน และเพื่อดำเนินการตรวจสอบทางกฎหมายหรือกฎข้อบังคับอื่นๆ และป้องกันการทุจริตภายในบริษัท ทั้งนี้ รวมไปถึงการตรวจสอบและการทำบันทึกภายใน การจัดการทรัพย์สิน และฐานข้อมูลด้านการทุจริต
5.6.6 เพื่อการสนับสนุน ช่วยเหลือ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการป้องกัน ตรวจสอบ สืบสวน แจ้งเบาะแส และดำเนินคดีต่ออาชญากรรม และการดำเนินการเพื่อการยับยั้งอาชญากรรม ป้องกันการฉ้อโกง และการกระทำที่ต้องห้ามตามกฎหมาย หรือการกระทำผิดกฎหมาย หรืออาจจะละเมิดต่อกฎหมาย
5.6.7 เพื่อช่วยเหลือในการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นในกระบวนการทางวินัยหรือการร้องทุกข์
5.6.8 เพื่อเยียวยา ป้องกัน หรือจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
5.7 เพื่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ
5.7.1 เพื่อการกระทำเพื่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ความรับผิดชอบตามกฎหมายของบริษัท
5.7.2 เพื่อเป็นการกระทำเพื่อประโยชน์โดยชอบของบริษัทและประโยชน์โดยชอบของบุคคลภายนอก
5.7.3 เพื่อประโยชน์สาธารณะ เป็นการกระทำเพื่อการปฏิบัติงานที่ทำเพื่อสาธารณประโยชน์หรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
5.7.4 เพื่อวัตถุประสงค์อื่นตามที่กฎหมายให้อำนาจในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
5.7.5 บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์อื่นใดอันเป็นเหตุให้บริษัทต้องการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ข้างต้น หรือเมื่อบริษัทประสงค์ที่จะให้มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์เดิมที่กำหนดไว้ หรือเมื่อบริษัทมีความจำเป็นต้องขอความยินยอมเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการเฉพาะจากท่าน โดยการติดต่อท่านผ่านข้อมูลติดต่อที่ท่านได้ให้บริษัทไว้
เมื่อได้รับข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว บริษัทจะดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลที่สอดคล้องตามข้อ 3. ของท่าน ตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้หรือตามความยินยอมของท่าน หรือตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บริษัทในเครือ เครือธุรกิจ บริษัทหรือบุคคลผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ตัวแทน หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องที่ตั้งอยู่ภายในหรือภายนอกประเทศไทย หน่วยงานราชการตามกฎหมาย เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย หรือกฎข้อบังคับ ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติตามคำสั่งหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมาย ศาล เจ้าพนักงาน หรือบุคคลภายนอกอื่นๆ ในกรณีที่บริษัทเชื่อว่าจำเป็นจะต้องปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมายหรือกฎข้อบังคับทางกฎหมาย ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ธนาคารและผู้ให้บริการด้านการชำระเงินและการทำธุรกรรม ผู้ให้บริการสนับสนุนลูกค้า ผู้ให้บริการจัดการด้านการตลาดและการโฆษณาที่ปรึกษาทางธุรกิจ รวมถึงนิติบุคคล หรือบุคคลอื่นใดที่บริษัท และ/หรือท่านเป็นคู่สัญญาหรือมีนิติสัมพันธ์ตามกฎหมาย นอกจากนี้ บริษัทอาจจำเป็นต้องส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังหน่วยงานกำกับดูแล หน่วยงานข้อมูลเครดิต เพื่อตรวจสอบ และอาจใช้ผลการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวเพื่อป้องกันการฉ้อโกง เพื่อความปลอดภัยส่วนบุคคล หรือเพื่อตรวจสอบ ป้องกัน หรือจัดการเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต หรือด้านความมั่นคงหรือความปลอดภัย (เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงแรงงาน)
ทั้งนี้บริษัทอาจมีความจำเป็นในการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคล หน่วยงานต่างประเทศหรือองค์กรระหว่างประเทศ ที่มิได้มีมาตรฐานด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ (Appropriate safeguards)
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกหรือเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางมีหรืออาจไม่มีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เท่าเทียมกัน ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่างๆ เพื่อทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมหรือกรณีอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด และบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านเพื่อการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศหากจำเป็นต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด
บริษัทมีการเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้
8.1 ลักษณะการเก็บ : จัดเก็บเป็นหนังสือ (Hard copy) และจัดเก็บในระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Soft copy) โดยมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ
8.2 สถานที่เก็บ : เก็บไว้ภายให้ห้อง ตู้ หรือตู้ที่มีอุปกรณ์นิรภัย ฮาร์ดดิสก์ ระบบคอมพิวเตอร์ ภายในบริษัทและสำนักงานสาขาของบริษัท บริษัทในเครือ รวมถึงเก็บไว้บน ***** หรือ เซิร์ฟเวอร์ ของผู้ให้บริการที่มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
8.3 ระยะเวลาจัดเก็บ : บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้น หรือภายในระยะเวลาที่มีสัญญาหรือนิติสัมพันธ์ตามกฎหมายระหว่างท่านและบริษัท หรือภายในระยะเวลาตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
เมื่อพ้นระยะเวลาจัดเก็บ หรือบริษัทไม่มีสิทธิหรือไม่สามารถอ้างฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว บริษัทจะดำเนินการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ภายในระยะเวลาอันควร
บริษัทอาจเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นครั้งคราว ในกรณีดังกล่าวนั้น บริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ ซึ่งรวมถึงการขอความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมหรือผู้ใช้อำนาจปกครองตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
10.1 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมกับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอยู่กับบริษัท
10.2 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right of access) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
10.3 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (right ** rectification) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือ เพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์
10.4 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (right ** erasure) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการขอให้บริษัททำการลบข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้
10.5 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (right to *********** ** processing) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้
10.6 สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (***** to data portability) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้กับบริษัทไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือ ตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเองด้วยเหตุบางประการได้
10.7 สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (***** to object) : เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลด้วยเหตุบางประการได้
10.8 การยื่นเรื่องร้องเรียน : ท่านอาจมีสิทธิ์ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่ท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลที่บังคับใช้
บริษัทอาจปฏิเสธการใช้สิทธิดังกล่าวข้างต้นของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนด โดยไม่ขัดต่อกฎหมาย
บริษัทจะจัดให้มีช่องทางการติดต่อไว้ในนโยบายฉบับนี้ เพื่อให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลดำเนินการยื่นคำร้องขอดำเนินการตามสิทธิข้างต้น โดยในกรณีที่บริษัทปฏิเสธคำขอข้างต้น บริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลทราบ
บริษัทได้จัดทำและ/หรือเลือกใช้ระบบการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลที่มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัท เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกนำไปใช้ เปิดเผย ทำลาย หรือเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างไรก็ตาม บริษัทจะรับรองว่าวิธีการรวบรวมจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านรวมถึงมาตรการความปลอดภัยทางกายภาพเป็นไปตามนโยบายความปลอดภัยของเทคโนโลยีสารสนเทศและแนวทางของบริษัท
ในระหว่างการใช้บริการ บริษัทจะส่งข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมทางการตลาด และการส่งเสริมการตลาด ผลิตภัณฑ์ การให้บริการของบริษัท รวมถึงผู้โฆษณา ที่บริษัทคาดว่าท่านอาจมีความสนใจเพื่อประโยชน์ในการให้บริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ ท่านสามารถดำเนินแจ้งยกเลิกความยินยอมในการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารได้ ตามช่องทางที่บริษัทกำหนด
การให้บริการของบริษัทในช่องทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน อาจมีลิงก์เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลภายนอกเหล่านั้นอาจเก็บรวบรวมข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับการใช้บริการของท่าน คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวนี้ใช้เฉพาะสำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดโดยบริษัทเท่านั้น บริษัทไม่สามารถรับผิดชอบในความปลอดภัยหรือความเป็นส่วนตัวของข้อมูลใด ๆ ของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมโดยเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของบุคคลภายนอกดังกล่าว แม้ว่าท่านจะกดลิงก์เชื่อมโยงที่ปรากฏบนการให้บริการของบริษัทก็ตาม ทั้งนี้ ท่านควรใช้ความระมัดระวังและตรวจสอบคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว/นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผลิตภัณฑ์ และบริการของบุคคลภายนอกเหล่านั้นด้วย
ในกรณีที่ท่านมีข้อซักถามเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ หรือต้องการใช้สิทธิของท่านตามที่กำหนดไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ โปรดใช้แบบฟอร์มการติดต่อบนเว็บไซต์ของบริษัทที่ www.liangchiang.com
นอกจากนี้ ท่านยังสามารถติดต่อบริษัทได้ตามที่อยู่ ดังนี้ บริษัท สำนักพิมพ์เลี่ยงเชียง เพียรเพื่อพุทธศาสน์ จำกัด Liang Chiang for Buddhism Publishing Co., Ltd. 105/95-96 ถนนประชาอุทิศ ซอย 45 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ 10140
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ อยู่ภายใต้การบังคับและการตีความตามกฎหมายไทย และศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้
บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใด ๆ ด้วยช่องทางที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม บริษัทแนะนำให้ท่านตรวจสอบทบทวนเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว
คุณสามารถส่งคำขอให้เราปิดบัญชีของคุณอย่างถาวรและลบข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้โดยติดต่อเราผ่าน "liangchiang.com" เมื่อเสร็จแล้ว บัญชีที่เชื่อมโยงกับที่อยู่อีเมลของคุณจะถูกปิดใช้งาน การปิดใช้งานบัญชีนี้หมายถึง: